บทความ

จุดเด่นของการดีดโดยใช้นิ้วจุดด้อยของการดีดโดยใช้นิ้ว

จุดเด่นของการดีดโดยใช้นิ้ว 1.  สามารถเล่นเสียงประสาน จากสายกีตาร์ตั้งแต่  2-4  เส้นพร้อมกัน โดยที่สายแต่ละเส้นไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกัน 2.  มีความคล่องตัวในการดีดแบบกระจายคอร์ด ที่มีแพล็ตเทริ้นในการดีดซ้ำๆกันตลอดทั้งเพลง 3.  การดีดคอร์ดด้วยวิธีการใช้นิ้วทั้ง  4  ดีดพร้อมกัน ให้ความรู้สึกคลาสสิค คล้ายเสียงเปียโน จุดด้อยของการดีดโดยใช้นิ้ว 1.  เสียงจากการดีดจะไม่ใส , ชัดเจน เหมือนกับการใช้ปิ๊ค   2.  สำหรับการดีดทำนองที่เร็ว เช่น การเล่นลูกนิ้ว ( Lick)   แบบต่างๆ จะไม่คล่องเท่ากับการดีดด้วยใช้ปิ๊ค จดไว้ : สัญลักษณ์ทางโน๊ตกีตาร์ เพื่อบอกว่าให้ใช้นิ้วใดในการเกาสาย มีดังนี้   1 =  นิ้วโป้ง 2 =  นิ้วชี้     3 =  นิ้วกลาง   4 =  นิ้วนาง   5 =  นิ้วก้อย

การเกากีตาร์แบบ 1 นิ้ว

รูปภาพ
การเกากีตาร์แบบ  1  นิ้ว รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่  4,5,6  ส่วนนิ้วที่จะใช้เล่นสายเส้นที่เป็นเสียงสูงทั้งหมดคือสายที่  1,2,3  จะใช้นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว ซึ่งวิธีนี้อาจดูง่ายสำหรับผู้เริ่มหัด แต่กรณีที่เล่นเพลงที่ซับซ้อน จะค่อนข้างสับสน และหลงสายได้ง่าย และเมื่อยนิ้วง่ายด้วย จึงไม่ค่อยนิยมนำมาเล่นในแบบบรรเลงเดี่ยวกีตาร์ หรือแบบกระจายคอร์ดเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม การเล่นแบบนิ้วเดียวกลับมีความคล่องตัว ในกรณีใช้เล่นคอร์ดในแพล็ตเทริ์นที่ใช้นิ้วโป้งเล่นเดินเบส สลับกับการใช้นิ้วชี้ตลัดขึ้นเพื่อเล่นสายเส้นล่างๆทั้ง  3  เส้นพร้อมกัน https://dekgenius.com/guitar/

การเกากีตาร์แบบ 2 นิ้ว

รูปภาพ
การเกากีตาร์แบบ  2  นิ้ว รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่  4,5,6  ส่วนนิ้วที่เหลือจะใช้เพียงนิ้วชี้ และ นิ้วกลาง ที่จะสลับกันดีด (คล้ายการเคลื่อนไหวของขาเวลาวิ่ง) ประจำสาย  1,2,3 อย่างไรก็ตามบางครั้งก็มีการใช้นิ้วโป้งไปเล่นสายที่  1,2,3  ด้วยเช่นกัน หรือบางทีนิ้วชี้และนิ้วกลาง ก็ไปเล่นสาย  4,5,6  ได้เช่นกัน โดยให้พิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละเพลง ปกติการเกาสายรูปแบบนี้ จะเหมาะมากในกรณีการเล่นเพลงบรรเลงแบบเดี่ยวกีตาร์ เพราะนิ้วชี้และนิ้วกลาง เมื่อดีดสลับกัน จะมีความคล่องตัว และสามารถดีดได้ถี่และรวดเร็ว https://dekgenius.com/guitar/

การเกากีตาร์แบบ 3 นิ้ว

รูปภาพ
การเกากีตาร์แบบ  3  นิ้ว รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่  4,5,6  ส่วนนิ้วที่เหลือจะดีดสายที่ให้เสียงสูง คือนิ้วชี้จะดีดประจำที่สายที่  3 ,  นิ้วกลางจะดีดประจำที่สายที่  2  และนิ้วนางจะดีดประจำที่สายที่  1 ปกติการเกาสายรูปแบบนี้ จะเหมาะมากในกรณีการเล่นแบบกระจายเสียงคอร์ด( Arpeggio)  ที่ต้องการเสียงกังวาลประสานกัน ( Ring)  ซึ่งมักมีแพลตเทิร์นในการดีดที่ซ้ำไปซ้ำมา จึงนิยมใช้เล่นเป็นดนตรีเพื่อประกอบการร้อง https://dekgenius.com/guitar/

การเกากีต้าร์

รูปภาพ
การเกากีต้าร์ การดีดด้วยนิ้ว หรือ การเกาสาย ( Finger Style  หรือบางทีเรียก  Finger Picking)  เรามักเรียกการเล่นแบบนี้ว่า ” การเกากีตาร์ ”  ซึ่งปกติเราจะใช้นิ้วสำหรับเกาสายทั้งหมด  4  นิ้ว คือ โป้ง  ,  ชี้  ,  กลาง  ,  นาง ส่วนนิ้วก้อยบางครั้งก็นำมาใช้ด้วยเหมือนกัน แต่ไม่นิยมนัก การเกากีตาร์   โดยส่วนที่สัมผัสกันระหว่างปลายนิ้ว กับ สายกีตาร์ในตอนดีดนั้น ถ้าเป็นนิ้วโป้ง จะใช้ด้านข้างด้านที่อยู่นอกตัวมือ ส่วนนิ้ว ชี้  ,  กลาง  ,  นาง จะอยู่ปลายนิ้วค่อนไปทางนิ้วโป้ง อธิบายอย่างนี้อาจจะเข้าใจยาก ดูรูปประกอบจะดีกว่า จากรูปส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมเล็กๆคือส่วนที่นิ้วสัมผัสกับสายกีตาร์          การเล่นกีตาร์สไตล์นี้ จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ต้องการการฝึกทักษะของนิ้วให้คุ้นเคยกับงานดีดสาย และสามารถวางนิ้วลงตำแหน่งที่ควรอยู่ได้อย่างอัตโนมัติเท่านั้นเอง ซึ่งหากจะแบ่งรูปแบบในการเกาสายที่เป็นที่นิยมเล่นกันมากที่สุด จะมีอยู่  3  รูปแบบ แบ่งตามจำนวนนิ้วที่ใช้...

การจับคอร์ดทาบ (Bar Chord)

รูปภาพ
การจับคอร์ดทาบ ( Bar Chord)            การจับคอร์ดทาบนั้นสำหรับคนที่หัดเล่นใหม่ๆแล้ว จะรู้สึกว่าจับยากมากทั้งเจ็บนิ้วไม่มีแรงกด เสียงบอด แต่การจับคอร์ดทาบนั้นมีเทคนิคอยู่นิดเดียว คือ การหักข้อมือลงด้านล่าง แล้วใช้นิ้วโป้งประคองตรงกลางหลังคอกีต้าร์ไว้ แทนการใช้นิ้วโป้งกำคอกีต้าร์แบบการจับคอร์ดธรรมดา แบบนี้จะเป็นการจับที่ถูกวิธี และช่วยให้มีแรงกดสายมากขึ้นทำให้เสียงไม่บอด ส่วนนิ้วที่ใช้กดสายก็พยายามให้ปลายนิ้วตั้งฉากกับสายมากที่สุดไม่ให้ไปโดนสายอื่นเพราะจะ ทำให้เสียงบอดได้

การจับปิคกีต้าร์

รูปภาพ
การจับปิคกีต้าร์ https://dekgenius.com/guitar/                  ปิค กีต้าร์นั้นมีหลายแบบหลายรูปทรง แต่ที่นิยมใช้กันทั่ว ๆ ไปก็คือ ปิคแบน ( flat pick)  ที่เห็นกันอยู่ทั่วไปก็จะมีอยู่  2  ทรงคือ รูป  3  เหลี่ยม แล้วก็ รูปหยดน้ำ มีให้เลือกตามขนาดความหนาของปิค ตั้งแต่ บาง  ,  ปานกลาง และ หนา ส่วนจะเลือกใช้ขนาดไหน ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ในการเล่นตีคอร์ดนั้นแนะนำให้ใช้ปิคแบบบาง เพราะจะเกิดแรงต้านกับสายน้อยเล่นแล้วจะรู้สึกพริ้วไหวไม่สะดุด ส่วนการเล่น  Solo  นั้นใช้ได้ทุกขนาดขึ้นอยู่กับความชอบความถนัดของแต่ละคน             การจับปิคนั้นให้วางปิคลงด้านบนสันของปลายนิ้วชี้ นิ้วชี้อยู่ในลักษณะงอเข้าหาปลายนิ้วโป้ง แล้วใช้นิ้วโป้งกดทับตัวปิค การจับไม่ได้จับจนแน่นมากให้จับพอกระชับไม่ให้หลุด ปลายปิคเลยออกมาจากนิ้วประมาณ  3-4  มิล ไม่สั้นหรือยาวออกมามากจนเกินไป ปิคต้องอยู่ในลักษณะตั้งฉากกับสายหรือเกือบจะตั้งฉากกับสาย และเอียงตัวปิคประมาณ  45...